

บริษัท ซินหัว เซอร์วิส จำกัด
Xin Hua Service Co., Ltd.
เราเป็นบริษัทที่ปรึกษามืออาชีพที่ให้บริการแบบครบวงจร
มีเครือข่ายในอุตสาหกรรมที่กว้างขวาง
พร้อมมอบคำปรึกษาให้แก่องค์กรไทยและต่างชาติ ที่ต้องการจัดตั้ง
และดำเนินการในประเทศไทย
การปฏิสนธินอกร่างกาย (IVF)
การทําเด็กหลอดแก้วหรือ IVF เป็นเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ (Assisted Reproductive Technology: ART) ประเภทหนึ่ง ซึ่งจะนำสเปิร์มและไข่ออกมาทำการปฏิสนธิในห้องปฏิบัติการ ตามด้วยการฝังตัวอ่อนเพื่อการตั้งครรภ์ การทําเด็กหลอดแก้วหรือ IVF เป็นเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสําหรับผู้ที่มีบุตรยากที่มีปัญหา เช่น
-
จํานวนอสุจิน้อยหรือไม่มีคุณภาพในผู้ชาย
-
ท่อนําไข่อุดตันหรือเสียหายในผู้หญิง
-
ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
-
ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ
-
เนื้องอกในมดลูก
-
ความเสี่ยงต่อโรคหรือความผิดปกติทางพันธุกรรม
-
ผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
-
คู่รักที่ในระยะเวลา 1 ปีไม่สามารถตั้งครรภ์ตามธรรมชาติได้
-
ผู้ชายที่มีความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

.png)
-
สามารถตรวจโครโมโซมตัวอ่อนได้
-
เป็นการทำเด็กหลอดแก้วที่มีโอกาสสำเร็จสูงที่สุด
-
ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดระหว่างทำ
-
สามารถทำ IVF ได้แม้ทำหมันมาแล้ว
-
สามารถเก็บไข่ และตัวอ่อนไว้ใช้ในอนาคตได้
-
เพิ่มความเป็นไปได้ในการตั้งครรภ์สำหรับสตรีที่มีบุตรยากและสูงอายุ (อายุมากกว่า 40 ปี)
-
มีการทดสอบทางพันธุกรรมก่อนการปลูกถ่ายทำให้ความเสี่ยงโรคทางพันธุกรรมของทารกแรกเกิดลดลง
ข้อดีของ IVF
การเตรียมตัวก่อนทำเด็กหลอดแก้ว
ฝ่ายหญิง
-
งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3 เดือน ทั้งก่อนเริ่มการรักษาและระหว่างการรักษา
-
งดสูบบุหรี่ 3 เดือน ทั้งก่อนเริ่มการรักษาและระหว่างการรักษา
-
งดอาหารที่มีน้ำตาลสูงและอาหารจำพวกแปรรูป
-
ดื่มน้ำอย่างน้อย 2 ลิตร/วัน
-
รับประทานโปรตีนมากๆ เพื่อให้ไข่สมบูรณ์
-
พักผ่อนให้เพียงพอ
-
หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียด
-
ควบคุมน้ำหนักโดยการออกกำลังกายเบาๆ และหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายแบบหักโหม
ฝ่ายชาย
-
งดสูบบุหรี่ 3 เดือนก่อนเริ่มการรักษา และระหว่างการรักษา
-
งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3 เดือน ก่อนเริ่มการรักษา และระหว่างการรักษา
-
งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
-
ไม่สวมใส่กางเกงชั้นในที่รัดแน่นเกินไป
-
หลีกเลี่ยงการแช่น้ำอุ่นและการทำซาวน่า
-
พักผ่อนให้เพียงพอ
-
หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียด
-
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ระยะเวลาในการทำเด็กหลอดแก้ว
1. การกระตุ้นไข่ : เเพทย์ทำการฉีดฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นไข่ในวันที่สองหรือสามของการมีประจำเดือน โดยจะมีการฉีดยากระตุ้นไข่ต่อเนื่องเป็นเวลา 8-12 วัน โดยภายในระยะเวลา 8-12 วัน ด้านผู้หญืงต้องมาเข้าพบแพทย์ทุกๆ 3-4 วัน
2. เก็บไข่ : หลังการฉีดกระตุ้นไข่และติดตามผลแล้ว หลังจากนั้นแพทย์จะทำการเก็บไข่หรือเจาะกระดูกไข่ ซึ่งจะทำการเจาะเก็บไข่ภายใน 34-36 ชั่วโมง หลังจากพบว่าไข่มีการเติบโตที่สมบูรณ์แล้ว โดยจะเก็บไข่ผ่านทางช่องคลอด ใช้เวลาประมาณ 10-45 นาทีในการเก็บไข่ และก่อนเก็บไข่ คนไข้ต้องงดน้ำงดอาหาร 6-8 ชั่วโมง ก่อนทำหัตถการ
3. เก็บอสุจิฝ่ายชาย : แพทย์จะให้ภาชนะกับฝ่ายชายเพื่อทำการเก็บเชื้ออสุจิโดยการช่วยตัวเอง โดยให้หลั่งออกมาในภาชนะปลอดเชื้อสำหรับการทำเด็กหลอดแก้วโดยเฉพาะ และเมื่อเก็บอสุจิได้แล้ว แพทย์จะนำมาคัดเลือกเพื่อทำการผสมกับไข่ในหลอดแก้ว ซึ่งในการเก็บอสุจิส่งเข้าห้องปฏิบัติการจะทำภายในเวลา 1 ชั่วโมง ในวันที่ฝ่ายหญิงได้รับการเก็บไข่ แต่ถ้าหากฝ่ายชายไม่สามารถเก็บอสุจิในวันดังกล่าวได้ ก็สามารถมาเก็บอสุจิก่อน แล้วแช่แข็งน้ำเชื้อไว้ล่วงหน้า และละลายมาใช้ในวันเก็บไข่
4. การผสมไข่กับอสุจิ : ในการผสมไข่กับอสุจิ ทางแพทย์จะปล่อยให้ตัวอสุจิว่ายน้ำไปผสมกับไข่เอง (IVF) โดยใส่จำนวนตัวอสุจิให้มากพอสำหรับไข่ และทิ้งระยะเวลาไว้ให้เหมาะสม หลังจากนั้นจึงนำไข่มาตรวจการผสมว่าเป็นตัวอ่อนหรือไม่
5. เพาะเลี้ยงตัวอ่อน : เมื่อเกิดการปฎิสนธิระหว่างไข่กับอสุจิ กระทั่งพัฒนาเป็นตัวอ่อน แพทย์จะเลี้ยงตัวอ่อนในห้องปฏิบัติการต่อจนเจริญเติบโต โดยจะใช้เวลาประมาณ 5-6 วันหลังปฏิสนธิ จนเติบโตถึงระยะบลาสโตซิสต์
6. รับยาเพื่อเตรียมผนังมดลูก : หลังจากเก็บไข่แล้วแพทย์จะจ่ายยาให้ฝ่ายหญิงเพื่อเตรียมผนังมดลูก จะใช้เวลา 21 วันจึงย้ายตัวอ่อนได้
7. ย้ายตัวอ่อน : หลังจากตัวอ่อนเติบโตแล้ว แพทย์จะย้ายตัวอ่อน โดยนำเข้าสู่โพรงมดลูก การย้ายตัวอ่อนมี 2 วิธี คือการย้ายตัวอ่อนรอบสดและรอบแช่แข็ง เพื่อให้ตัวอ่อนไปเจริญเติบโตในมดลูกต่อไป โดยจะใช้เครื่องมือในการย้ายตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูกผ่านทางช่องคลอด ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที โดยหลังจากที่ทำการย้ายตัวอ่อนเสร็จแล้ว แพทย์จะให้คนไข้นอนพักต่ออีก 1-2 ชั่วโมงหลังทำ และกลับไปพักต่อที่บ้านอีก 12-24 ชั่วโมง
8. ติดตามผล : หลังจากที่ทำการย้ายตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูกแล้ว แพทย์จะนัดคนไข้มาติดตามผลหลังอีกทีในอีก 11 วัน เพื่อนัดเจาะเลือดตรวจการตั้งครรภ์ ทั้งนี้ไม่แนะนำให้ผู้ป่วยตรวจการตั้งครรภ์เอง เนื่องจากอาจมีความผิดพลาดได้